วันนี้ (6 มกราคม 2019) นายชิวฟงกวง ผู้บังคับบัญชาการสำนักงานตรวจคนเมืองสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้จัดกิจกรรมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในเรื่อง “โครงการมอบตัวผู้พำนักเกินเวลากำหนด” ณ ชั้น 1 ห้องโถงใหญ่สถานนีรถไฟเมืองไทเป โดยโครงการพิเศษครั้งเดียวนี้ หวังที่จะเป็นโอกาสรณรงค์สนับสนุนผู้ที่พำนักเกินเวลาที่กำหนดเข้ามอบตัวด้วยตนเองก่อนเดือนมิถุนายน 2019 และจะมีการผ่อนปรนการกักกันและค่าปรับในการพำนักเกินเวลาที่กำหนดจำนวน 2,000 ดอลลาร์ไต้หวัน และในขณะเดียวกันก็ชักชวนให้ประชาชนมาร้องเรียนเรื่องนายจ้างหรือนายหน้าที่ผิดกฎหมายกันให้มากขึ้น หากตรวจสอบแล้วว่ามีความผิดจริง ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็จะช่วยทำเรื่องยื่นขอรับเงินรางวัลให้ผู้แจ้งความ
ผู้บังคับบัญชาการสำนักงานตรวจคนเมืองนายชิวฟงกวง ได้แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนว่า จากผลกระทบความเปลี่ยนของโลกและการมุ่งพัฒนาประเทศสู่สากลนั้น ทำให้มีการแลกเปลี่ยนของบุคลากรเพิ่มขึ้น ไต้หวันก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องเผชิญกับปัญหาผู้พำนักเกินกำหนดซึ่งยังคงเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยจนถึงเดือนตุลาคม ปี 2018 สถิติผู้พำนักเกินเวลาที่กำหนด ในไต้หวันมีจำนวนมากถึง 88,000 กว่าราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลเสียให้ความสงบสุขของผู้คนในสังคม ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มการตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงแบ่งเบาภาระงานของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังให้การคุ้มครองสิทธิของผู้ที่พำนักเกินเวลาที่กำหนด ทางสำนักงานตรวจคนเมือง จึงได้ริเริ่มให้มี “โครงการมอบตัวผู้พำนักเกินเวลากำหนด” ตั้งแต่ ปี 2011 โดยให้ผู้ที่อยู่ในกรณีพำนักเกินเวลาที่กำหนด ยกเว้นการถูกกักกันตัว ทั้งนี้ จากการปฎิบัติงานของหลายปีที่ผ่านมาถือได้ว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ในปี 2019 นี้ จึงได้เพิ่มการรณรงค์ “โครงการมามอบตัวแก่ผู้พำนักเกินเวลาที่กำหนด ” ขึ้น
นายชิวฟงกวงรณรงค์ให้ประชาชนที่รู้จักชาวต่างชาติผู้พำนักเกินกำหนด ให้พี่น้องประชาชนเกลี้ยกล่อมให้ผู้นั้นมามอบตัว เพื่อปกป้องสิทธิของเจ้าตัว เนื่องจากเมื่อไม่มีสถานะอันถูกกฎหมายผู้พำนักเกินกำหนดอาจถูกนายจ้างล่อใช้งานอย่างไม่เป็นธรรมหรือตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ได้
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแถลงว่า โครงการนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2019 – 30 มิถุนายน 2019 (โดยเดือนมกราคมเป็นช่วงเวลารณรงค์) “โครงการมอบตัวผู้พำนักเกินเวลากำหนด” ใช้นโยบาย “ผสมผสานระหว่างการผ่อนผันและความเคร่งครัด” ในระยะเวลาดังกล่าวมีมาตราการดำเนินการคือ กรณี “ผู้มามอบตัว” จะมีการผ่อนผัน งดค่าปรับ 2,000 ดอลลาร์ไต้หวัน และลดระยะเวลาการห้ามเข้าไต้หวัน แต่หากเป็นกรณี “ที่ถูกตรวจสอบเจอ” จะมีการใช้มาตราการ “เคร่งครัด” คือจะมีการกักกัน จ่ายเงินค่าปรับ และห้ามเข้าไต้หวันเป็นระยะเวลาดั่งกำหนดสูงสุดในกฎหมาย ในกรณีที่มีการพบตัวหลังสิ้นสุดโครงการแล้ว จะมีการเพิ่มอัตราการปรับเงิน และถูกจำกัดสิทธิห้ามเข้าไต้หวันยาวขึ้น
นอกจากนี้ ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็ยังพุ่งเป้าไปที่ นายจ้าง นายหน้าที่ผิดกฎหมาย จะทำการตรวจจับอย่างเข็มงวด อีกทั้งชักชวนรณรงค์ให้ผู้พำนักเกินเวลาแจ้งเบาะแสนายจ้าง และนายหน้าผิดกฎหมาย โดยนายจ้างและนายหน้าผิดกฎหมายมีความรับผิดชอบทางกฎหมายที่จะต้องซื้อตั๋วเครื่องบินให้ผู้พำนักเกินกำหนด ทั้งนี้ ผู้พำนักเกินกำหนดสามารถโทรแจ้งการมอบตัว เบาะแสนายจ้าง และนายหน้าผิดกฎหมายได้ที่เบอร์โทรฟรี 0800-024-881 หรือเบอร์ป้องกันการค้ามนุษย์ (02)-2388-3095 ขอเชิญให้ประชาชนโทรมาหากมีเบาะแสที่เกี่ยวข้อง
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ได้เรียนเชิญผู้แทนจากหลายๆ ประเทศอาทิเช่น เวียดนาม อินโดนิเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ มาเข้าร่วม และนอกจากจะมีการฉายคลิปสั้นเพื่อการรณรงค์แล้ว ยังมีการชี้แจงรายละเอียดสำคัญของโครงการ รวมถึงแผ่นพับแนะแนวทาง ในงานมีการจัดบูธอาหารเอเชียตะวันออกฉียงใต้ ขอเชิญเพื่อนๆชาวแรงงาน และผู้สนใจเข้ามาร่วมงานกันได้ เรามีกิจกรรม “กดไลค์แลกอาหารแสนอร่อย” มาร่วมกันกดไลค์และกดแชร์ “โครงการมอบตัวผู้พำนักเกินเวลากำหนด” ให้เพื่อนๆ ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ในกิจกรรมนี้ไปด้วยกัน